ตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้กำลังทวีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่จบศึกฟุตบอลยูโร 2024 ขณะนี้ ทุกๆทีมในลีกใหญ่ๆเริ่มขยับเข้าไปเฟ้นหานักเตะมากขึ้นเรื่อยๆ หลายๆทีมเริ่มทยอยเปิดตัวนักเตะไปแล้ว แต่ที่ตอนนี้ทุกสายตาจับจ้อง นอกจากการเปิดตัวคิลิยัน เอ็มบัปเป้ และเลนี่ โยโร่ ก็คือดีลของนักเตะหน้าใหม่ในศึกยูโร 2024 อย่าง ริคคาร์โด คาลาฟิโอรี่ เซ็นเตอร์แบ็คชาวอิตาลี จากโบโลญญ่า ที่อาร์เซนอลจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และกำลังจะปิดดีลได้ในไม่ช้า ปาดหน้าทั้งยูเวนตุสและเชลซีที่มีข่าวกับนักเตะวัย 22 ปีรายนี้เช่นกันจุดเริ่มต้นของการเสริมตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คในครั้งนี้เนื่องจากทางมิเกล อาร์เตต้า กุนซือชาวสเปนของไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ต้องการเสริมแนวรับมากขึ้นเพื่อรองรับจำนวนเกมที่จะมากขึ้นและหมุนเวียนการใช้นักเตะให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากเมื่อฤดูกาลที่แล้วเขาต้องพบปัญหานักเตะบาดเจ็บและฟอร์มไม่สม่ำเสมอทั้งโอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน แถมต้องมาเจอปัญหายูเรี่ยน ทิมเบอร์ที่บาดเจ็บหนักจนต้องปิดเทอมยาวไป รวมไปถึงทาเคฮิโระ โทมิยาสุที่ต้องคอยสลับลงกับเบน ไวท์ ที่ต้องโยกมาเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายบ้างในบางเกม ทำให้เขาต้องใช้ยาคุบ คิวิออร์ในตำแหน่งแบ็คซ้ายแทนในช่วงที่โทมิยาสุได้รับอาการบาดเจ็บ แม้คิวิออร์จะสามารถเล่นแบ็คซ้ายได้ก็ตาม แต่เขาก็ไม่ใช่แบ็คธรรมชาติแบบซินเชนโก้หรือทิมเบอร์ อีกทั้งยังต้องคอยเป็นผู้เล่นหมุนเวียนให้กับวิลเลียม ซาลิบาและกาเบรียล มากัลเญสอีกด้วย ทำให้อาร์เตต้าจำเป็นต้องเสริมกองหลังเพิ่ม และคาลาฟิโอรี่ คือตัวเลือกอันดับต้นๆของเขาคาลาฟิโอรี่เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คเป็นหลัก แต่ก่อนหน้านี้เขาเลยลงเล่นในนามทีมชาติอิตาลีชุด U21 เขาเคยถูกโยกให้ไปเล่นตำแหน่งแบ็คซ้ายมาก่อนแล้ว ทำให้เขาเป็นนักเตะที่สามารถเล่นได้ทั้งสองตำแหน่ง ซึ่งตรงกับสเปคที่อาร์เตต้าต้องการ เพราะทิมเบอร์กับคิวิออร์ก็เล่นได้แบบนี้เช่นกัน ซึ่งกรณีนี้ถือว่าเป็นการเสริมทัพแบบที่อาร์เตต้าทำมาตลอด สเปคผู้เล่นที่เขาต้องการ ต้องสามารถเล่นได้มากกว่า 1 ตำแหน่ง เช่นเดียวกับตอนที่ดึงเลอันโดร ทรอสซาร์ และไค ฮาแวตซ์มาร่วมทีม ซึ่งทรอสซาร์สามารถเล่นได้ทั้งปีกซ้ายและปีกขวา รวมไปถึงกองหน้าตัวต่ำ ส่วนทางฮาแวตซ์ก็สามารถเล่นเป็นกองหน้าและกองกลางได้(แม้ตำแหน่งนี้จะทำให้เขาโดนมองว่าเล่นไม่ดีแต่ในบางเกมถือว่าเล่นพอใช้ได้) หรือแม้กระทั่งการลองจับกาเบรียล เฆซุสเล่นในตำแหน่งปีก เขาก็เคยลองมาแล้วเช่นกัน แต่ถึงอย่างไร การเปลี่ยนตำแหน่งนักเตะสามารถใช้ได้แค่ในบางเกม แต่ใช้ไม่ได้ตลอด หากนักเตะไม่สามารถปรับจูนในตำแหน่งใหม่ได้ และคาลาฟิโอรี่ก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการย้ายออกจากโบโลญญ่าเพื่อความท้าทายและโอกาสที่จะได้เล่นกับทีมใหญ่ โดยก่อนหน้านี้มีทั้งยูเวนตุสและเชลซีคอยจับตาดูสถานการณ์ แต่สุดท้ายก็เป็นอาร์เซนอลที่สามารถเจรจาได้สำเร็จ และอยู่ในขั้นตอนการปิดดีล แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีข่าวที่ไม่ค่อยสู้ดีที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาร์เซนอลเลย นั่นก็คือ ความวุ่นวายในเรื่องของส่วนแบ่งจากการขายคาลาฟิโอรี่ โดยทีมที่เป็นตัวแปรในดีลนี้นั่นก็คือ เอฟซี บาเซิล เนื่องจากในดีลที่โบโลญญ่าดึงตัวคาลาฟิโอรี่มาจากเอฟซี บาเซิลนั้น มีการใส่เงื่อนไขไว้ว่าหากในอนาคตนักเตะย้ายทีม ทางบาเซิลจะได้รับส่วนแบ่งจากการขายถึง 50% ซึ่งนั่นถือว่าเป็นเงินกินเปล่าที่บาเซิลจะได้มหาศาลเลยทีเดียว ทำให้ทางโบโลญญ่านั้นก็หนักใจที่จะต้องตั้งค่าตัวให้สูงและต้องการเงินก้อนโต เพื่อที่จะเอาไปจัดการส่วนแบ่งนั้นให้จบๆไป ไม่ให้มีการล่าช้าหรือมีผลกระทบกับการเงินของทีมในอนาคต ทำให้การดีลก่อนหน้านี้กับอาร์เซนอลนั้นจึงมีปัญหาพอสมควรในเรื่องของสัดส่วนการคิดค่าตัว และกำลังจะจบลงที่จำนวน 40 ล้านยูโร บวกเพิ่มอีก 5 ล้านยูโร เซ็นสัญญา 5 ปี และมีเงื่อนไขส่วนแบ่งจากการขายนักเตะรวมไปในสัญญานี้ด้วย โดยล่าสุดทางบาเซิลกับโบโลญญ่าเจรจากันลงตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงทางเจ้าตัวก็ไม่ได้ไปร่วมพรีซีซั่นกับโบโลญญ่าแล้ว ทำให้มีโอกาสที่ในเดือนนี้จะเปิดตัวกับอาร์เซนอลอย่างเป็นทางการแฟนบอลไอ้ปืนใหญ่คงตั้งตารอการชูเสื้ออย่างเป็นทางการของคาลาฟิโอรี่และเบอร์เสื้อของเขาที่จะใส่กับทีม รวมไปถึงดีลอื่นๆที่กำลังมีข่าวอยู่ หากตลาดนี้อาร์เซนอลได้นักเตะตรงตามสเปคและสามารถเสริมทีมให้แกร่งขึ้นได้ พวกเขาจะกลายเป็นทีมที่น่ากลัวมากขึ้นกว่าฤดูกาลที่แล้วอย่างแน่นอน และพร้อมที่จะขับเคี่ยวกับแชมป์เก่าและทีมลุ้นแชมป์เพื่อคว้าถ้วยใบสำคัญที่รอคอยขอขอบคุณภาพประกอบบทความภาพที่ 1 ,ภาพปกบทความ 1 และภาพปกบทความ 2 จาก Facebook ภาพที่ 2,3 และภาพปกบทความ จาก Facebook Arsenalภาพที่ 4 จาก Facebook FC Basel 1893เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !